1. ตรวจสอบข้อมูลที่ผู้อื่นสร้างขึ้นด้วยตนเองเสมอ
- ไม่ว่าข้อมูลที่สร้างโดยผู้อื่นจะเป็นอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรายงานของนักวิเคราะห์ ข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาลหรือสถาบันวิจัย หรือแม้แต่การวิเคราะห์ของนักลงทุนคนอื่นๆ ที่พบเห็นบนอินเทอร์เน็ต ก็ตาม ไม่ควรยอมรับข้อมูลของผู้อื่นตามนั้น ควรพิจารณาและทบทวนทีละขั้นตอนผ่านกระบวนการนี้ จะสามารถ 1) ค้นหาข้อผิดพลาดที่มนุษย์สามารถทำได้ และ 2) ทบทวนตรรกะที่พวกเขาใช้ในการสร้างไอเดียการลงทุน ซึ่งกระบวนการที่ 2 นี้ถือเป็นการประเมินมาตรฐาน (Benchmarking)วิธีที่ดีที่สุดในการเป็น Fast follower คือการประเมินมาตรฐานผู้ที่เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม และเมื่อทำซ้ำๆ จนเกิดทักษะขึ้น ก็จะสามารถก้าวไปสู่การเป็น First mover ได้ ไม่ใช่แค่การทำตามความคิดเห็นของผู้อื่น แต่สามารถเสนอความคิดเห็นให้กับผู้อื่นได้
2. เมื่อค้นหาข้อมูล ให้พยายามดูข้อมูลดิบ (Raw data) ที่ไม่ได้ผ่านการประมวลผลมากที่สุด
- มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่ชอบขั้นตอนที่ 2 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทความข่าว รายงานของนักวิเคราะห์หรือผู้ลงทุนรายอื่นๆ ในขั้นตอนการแก้ปัญหาตรรกะ จะมีข้อมูลมากมายปรากฏขึ้น และนักลงทุนส่วนใหญ่จะเพียงแค่ดูเนื้อหาที่ปรากฏและผ่านไป แต่ควรฝึกนิสัยในการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลแรกสุดหรือข้อมูลดิบ (Raw data) ที่ข้อมูลนั้นถูกกล่าวถึง ซึ่งแน่นอนว่าในบางกรณีอาจเป็นข้อมูลที่มีค่าใช้จ่ายหรือไม่สามารถทำได้ แต่ในกรณีที่ไม่ใช่เช่นนั้น ควรพยายามตรวจสอบให้ได้มากที่สุด เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเรียนรู้ของตนเอง แม้ว่าการค้นหาและจัดเรียงข้อมูลดิบ (Raw data) ทีละรายการอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ใช้เวลานานและไม่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ใช่เวลาที่สูญเปล่า แต่เป็นช่วงเวลาที่เป็นประโยชน์อย่างมากผ่านกระบวนการนี้ จะสามารถ 1) ทบทวนความคิดของตนเองอีกครั้ง 2) ค้นพบข้อมูลที่ผู้อื่นไม่ใส่ใจ และ 3) ที่สำคัญที่สุด คือ มนุษย์จะจดจำและเข้าใจเนื้อหาที่ตนเองลงมือทำด้วยตัวเองได้ดีกว่าเนื้อหาที่ผู้อื่นป้อนให้
3. พยายามจดจำในรูปแบบเชิงปริมาณและเชิงตัวเลขให้มากที่สุด
- หากต้องการอยู่รอดและสร้างผลกำไรจากการลงทุนในระยะยาว ต้องคุ้นเคยกับตัวเลขและไม่รู้สึกกลัวที่จะจัดการกับตัวเลขบางคนกล่าวว่า อัลฟ่าที่แท้จริงไม่ได้มาจากตัวเลขที่เห็นได้ชัดเจนที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ แต่มาจากสิ่งที่เหนือกว่าที่ผู้อื่นไม่สามารถตัดสินได้ แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วไปไม่สามารถทำได้และหากคุณเข้าใจอย่างถ่องแท้ คุณก็สามารถหาปริมาณความฝันและจินตนาการในใจให้เป็นตัวเลขได้ในระดับหนึ่ง ความทรงจำของมนุษย์นั้นมักจะหายไปหรือผิดเพี้ยนไปตามกาลเวลา ในเวลานั้น สิ่งที่ปกป้องเราได้มีเพียงตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเท่านั้นยิ่งผู้ที่มีความจำไม่ดีหรืออ่อนแอต่อตัวเลข ควรแปลงหัวข้อสำคัญต่างๆ ให้เป็นตัวเลขและจดจำไว้เสมอ
ความคิดเห็น0